ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ

ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ (บ้านแมวไทย)

บ้านแมวไทยสมุทรสงครามศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ เป็นพื้นที่ที่ให้เข้าชมและศึกษาประวัติแมวไทยต่างๆ แมวไทยมี 23 สายพันธ์ มีความเชื่อกันว่า 6 สายพันธุ์เป็นแมวให้โทษ 13 สายพันธุ์เป็นแมวมงคลชนิดที่สูญพันไปแล้วและ 4 สายพันธุ์ที่ยังคงเหลือให้เราได้เห็น มาทำความรู้จักกับสายพันธุ์แมวไทยโบราณที่ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ จังหวัดสมุทรสงครามด้วยกัน

บิดาวงการแมวไทย นายปรีชา พุคคะบุตร

จ.สมุทรสงคราม มีนักอนุรักษ์แมวไทยคนหนึ่งที่ตลอดทั้งชีวิตได้พยายามสืบค้นหาแมวไทยโบราณพันธุ์แท้ที่ไม่เคยพบเห็นมานานและคาดว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วให้กลับคืนมาอีกครั้ง คือนายปรีชา พุคคะบุตร อดีตกำนัน ต.แควอ้อม อ.อัมพวา ช่วงแรกๆ ถึงกับตั้งฟาร์มแมวเล็กๆ ภายในบริเวณบ้านของตนเอง เลขที่ 2/1 หมู่ 7 ต.แควอ้อม ก่อนจะมาเป็นศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ จ.สมุทรสงคราม ในปัจจุบัน และท่านได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 เมื่ออายุได้ 81 ปี แม้จะเป็นการปิดตำนานนักอนุรักษ์แมวไทยไปแล้ว แต่แมวไทยอีกนับร้อยตัวก็ยังอยู่ในความดูแลของทายาทรุ่นลูกหลานที่ยืนยันว่าจะสานต่อเพื่อให้แมวไทยโบราณอยู่คู่กับประเทศไทยและเป็นมรดกโลกต่อไป

ที่มาhttps://www.dailynews.co.th/news/215689/

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเล็งเห็นว่าแมวไทยเป็นสัญลักษณ์ของชาติที่จะทำให้ประเทศต่างๆทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย จึงได้พระราชทานแมวไทยให้ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศเช่น ประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2427 ประเทศอเมริกาในปี พ.ศ. 2433 ประเทศอังกฤษทรงมอบแมวเชียรมาศหนึ่งให้แก่ นายโอเวน กูลด์ (OVEN GULD) กงสุลอังกฤษประจำประเทศไทยตอนลากลับ นายยโอเวน กูลด์ได้นำแมวไทยไปฝากน้องสาวที่ประเทศอังกฤษ รุ่งขึ้นปี พ.ศ. 2428 ที่คริสตั้นพาเลช (THE CRYSTL PALACE กรุงลอนดอน ได้จัดประกวดแมวโลกขึ้นเป็นครั้งแรก แมวคู่นี้ถูกส่งข้าประกวดปรากฏว่า ชนะเลิศทำให้ชาวอังกฤษพากันตื่นเต้นเลี้ยงแมวไทยกันมากขึ้น ถึงกับมีการจัดตั้งสโมสิรแมวไทยไนปี พ.ศ. 2471 มีชื่อว่า THE SIAMESECHT CLUBS และต่อมาในปีพ.ศ. 2471มีการตั้งสมาคมแมวไทยแห่งจักรวรรคอังกฤษ หรือ THESIAMESE CAT SOCET ,OF BRITISH EMPIRE อีกสมาคมหนึ่ง และได้มาแมววิเชยรมาศ จดทะเบียนเป็นสัตวพันธุ์แท้ของโลก โดยใช้ชื่อว่า ไซมิสแคท (SIAMESE CAT) แล้วเผยแพร่แมวไทยไปทั่วโลก จนเป็นที่ยอมรับว่าแมวไทยเป็นแมวขนสั้นที่สวยสง่าที่สุดไนโลก จึงทำให้แมวไทยและประเทศไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในสมัยนั้นแมวไทยนับว่าเป็นทรัพยากรทางชีวภาพ และเป็นวัฒนธรรมอันสูงส่งของชาติไทยมาแต่โบราณกาลเปรียบเสมือนเป็นมรดกอันล้ำค่า ที่บรรพชนได้ท่ายทอดให้อยู่ในพื้นแผ่นดินไทย เป็นสิ่งภาคภูมิใจสู่อนุชนไทยรุ่นหลังได้ชื่นชมศูนย์อนุรักษ์แมวไทยจังหวัดสมุทรสงคราม ตระหนักถึงความสำคัญในพลังความรัก พลังศรัทธาในมรดกอันล้ำค่าและขอความร่วมมือในการสืบสานให้อยู่คู่พื้นแผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน

แมวไทยโบราณที่หลงเหลือในปัจจุบัน 4 สายพันธุ์

สีสวาด Silver Blue

แมวสีสวาดหรือแมวโคราช โบราณเรียกว่า แมวมาเลศหรือแมวดอกเลา ที่เรียกว่าแมวโคราช เพราะเรียกตามถิ่นกำเนิด คือพบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ในสมัยโบราณ มีความเชื่อว่าเป็นแมวแห่งโชคลาภ เพราะมีสีขนคล้ายสีเมฆตามีสีเหลืองอมเขียวเปรียบประดุจข้าวกล้า ดังนั้นจึงถูกใช้ใน พิธีแห่นางแมวขอฝนในสมัยโบราณ

Silver Blue or Korat was previously called Malase or Gray. It was renamed Korat because it was originated in Phimai in Nakhorn Rajasima (Korat).During the ancient time, Korat was considered to be a lucky cat. Since the hair color associates cloudy sky ancient people used this cat for rain-making rituals.

ขาวมณี Pure White

แมวขาวมณี หรือ แมวขาวปลอด ถูกสันนิษฐานว่าเกิดในช่วงสมัย รัตนโกสินทร์ จึงไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณที่รวบรวมลักษณะแมวมงคล ๑๗ ชนิด แมวขาวมณีมีรูปร่างขนาดิกลาง ขนสีขาวสั้นแน่น อ่อนนุ่ม ศีรษะคล้ายรูปหัวใจหน้าผากใหญ่แบน มีสามลักษณะด้วยกัน คือ มีตาสีฟ้าสองข้าง,ตาสีเหลืองสองข้าง และตาสองสี (ข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง) ถึงแม่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณแต่ในปัจจุบันแมวขาวมณี หรือแมวขาวปลอดเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากเนื่องจากมีความเชื่องมาก เหมาะกับการเลี้ยงไว้ดูเล่น

Koa-Mani or Pure White is estimated to have appeared in the Rattanakosin Reign. As a result, it was not listed among seventeen lucky cats in koi-tree book. Pure White is medium size and its hair is short, thick, and soft. Its head has heart-like shape with big and flat forehead.
There are three types of eyes, namely, sky blue eyes, golden yellow eyes, and two-color eyes with one sky blue eye and another golden yellow eye. Although this cat is not described in koi-tree book, it becomes popular as a pet because it is very tame.

ศุภลักษณ์ Copper

แมวศุภลักษณ์ ซึ่งปรากฏชื่อในสมุดข่อยโบราณ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแมวทองแดง เนื่องจากมีขนสีน้ำตาลเข้มเหมือนสีทองแดงเสมอกันทั้งตัวตามีสีเหลืองเป็นประกาย ยังมีแมวอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแมวศุภลักษณ์ของไทยที่หลงเข้าไปอยู่ในประเทศพม่าเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง โดย ดร.โจเชฟ ชีทอมสัน (Dr. Joseph Thomson) ชาวอเมริกัน ได้นำลูกแมวจากประเทศพม่าไปพัฒนาสายพันธุ์ และจดทะเบียนที่ประเทศอังกฤษ ด้วยเห็นว่ามีรูปร่างลักษณะดี ในชื่อ แมวพม่า (Burmese Cat)
ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวศุภลักษณ์ของไทย

Supaluk with alternative name Copper in koi-tree book because of its whole body hair colors like copper. Its eyes are yellow bright. There is another Thai cat which had been considered as Copper. This cat had once lost into Burma when Sri Ayudhaya Capital was destroyed for the second time. Later Dr. Josept Thomson, an American, had brought this cat from Burma and registered it as Burmese because of its good characteristics and similarity to Supaluk.

วิเชียรมาศ Siamese

แมววิเชียรมาศ ปรากฏหลักฐานในสมุดข่อยโบราณของไทยเป็นแมวที่คนไทยเลียงไว้ในพระราชสำนัก เพราะถือว่าเป็นแมวนำโชคลาภ ชาวบ้านธรรมดาไม่มีโอกาสได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศ มีลักษณะเด่น คือ มีตาสีฟ้าสดใสเหมือนตาฝรั่ง ส่วนสีขนลำตัวนั้นเป็นสีครีมและมีแต้มสีเข้ม ที่เรียกว่าแต้มสีครั่ง (SEAL POINT)
ได้แก่ ที่บริเวณหน้า หูทั้งสองข้าง ขาทั้งสีข้าง หางและที่อวัยวะเพศ รวม ๙ ตำแหน่ง

According to the description in the koi-tree book, Wichienmas used to be raised in the palace because this cat was considered to bring fortune to its owner. Normal people was not allowed to raise Wichienmas. The cat has clear sky blue eyes and the color of hair is light white cream.
Throughout the cat’s body, there are nine dark brown spots which are known as seal points: face, two ears, four legs, tail, and testicles.

ลักษณะแมวไทยให้โทษ 6 ชนิด

แมวไทยโบราณที่หลงเหลืออยู่ 4 สายพันธุ์

แมวมงคล 13 ชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

มุมนั่งเล่น

เมื่อเดินชมน้องๆที่ศูนย์ยังมีห้องให้เราสามารถน้องเล่นกันน้องๆได้เข้าใกล้ชิดน้องๆน้องน่ารักมากเป็นกันเองจะมีอยู่ตัวนึงเป็นเหมือนไกด์เดินนำเราตลอดไปไหนไปด้วยอ้อนจนอยากนำกลับบ้านด้วยส่วนน้องๆตัวอื่นหลับสบาย

เดอะ คิทเท่นส์ คอฟฟี่

ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณยังมีคาเฟ่ข้างๆให้เราได้นั้งพักดื่มของอร่อยได้ถ่ายรูปสวยๆหลังจากดูน้องแมวก่อนกลับบ้านอีกด้วย